เปลี่ยนความคิดที่มีต่อภาษาอังกฤษใน 3 เดือน – ใคร ๆ ก็สามารถทำได้
สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อเดป อายุ 13 ปีและกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมฮาลองที่ตั้งอยู่ที่เมืองตูกี จังหวัดไฮดวง
ฉันอยากจะขอขอบคุณอาจารย์และสมาชิก X3English ทุกคนที่มอบโอกาสให้ฉันได้แบ่งปันเรื่องราวของฉัน
รูปที่ถ่ายตอนที่โรงเรียนของฉันจัดงานสัมนากับอาจารย์ชาวอเมริกันและเขาก็ชมเชยภาษาอังกฤษของฉัน
เริ่มต้นด้วยความหลงใหลและความห่วงใยของพ่อ
เหตุผลที่ฉันรักภาษาอังกฤษนั้นเรียบง่ายมาก ๆ ฉันรักการฟังเพลงภาษาอังกฤษและเพลงเกาหลี ฉันวางแผนจะเรียนภาษาอังกฤษก่อนและอาจจะเรียนภาษาเกาหลีต่อตอนที่ฉันเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย
ฉันตระหนักได้ว่าการเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนนั้นมีข้อจำกัดมากมายและทักษะการฟังและการพูดของฉันก็ไม่ได้ดี แบบที่เรียกได้ว่า “ค่อนข้างแย่”
การที่ได้เห็นความหลงใหลในภาษาอังกฤษ คุณพ่อของฉันจึงตัดสินใจจ่ายเงินให้ฉันไปเรียน เข้าลงทะเบียนเรียนหลักสูตรหนึ่งในสถานบันภาษาอังกฤษในเมืองไฮดวงให้กับฉัน แม้ว่าสถาบันจะอยู่ห่างไกลถึง 40 กิโลเมตรจากบ้านของฉัน แต่คุณพ่อก็ยังพาฉันไปเรียนที่สถาบันอยู่เสมอ
ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันต้องพยายามให้มากกว่านี้ ตั้งใจให้มากกว่านี้ แต่แล้วความจริงก็ทำให้ฉันตระหนักได้ว่าบางครั้งการตั้งใจอย่างมากก็ไม่ได้รับประกันความสำเร็จ…
ถึงวันที่สับสนและเสียใจ
หลังจากเรียนที่สถาบันมาได้สักระยะหนึ่ง หลักไวยากรณ์ของฉันดีขึ้นเล็กน้อย แต่ทักษะการฟังและการพูดไม่พัฒนาขึ้นเลย
ฉันลองวิธีต่าง ๆ มากมาย รวมถึงใช้เวลาทั้งวันเพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันดีขึ้นเลย ทักษะการฟังและการพูดของฉันยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แถมฉันยังจำคำศัพท์ได้ไม่นานเกินสามวัน
ฉันทั้งรู้สึกแย่ หมดกำลังใจ บางครั้งก็อยากจะร้องไห้ออกมาดัง ๆ ฉันเอาแต่ถามตัวเองว่าทำไมไม่พยายามให้มากกว่านี้และฉันคิดว่าฉันคงโง่เกินกว่าจะเรียนได้ ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงและสับสนจนฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มเรียนอีกครั้งที่ตรงไหนดี
ฉันเครียดมากจนความเครียดนี้ส่งผลกับตัวฉันที่โรงเรียน พ่อแม่ถึงกับถามฉันว่าฉันเป็นอะไร แต่ฉันก็ไม่รู้จะตอบคำถามพวกเขายังไง 🙁
เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง
เดปและคุณพ่อของเธอ
จนกระทั่งวันที่ 20 พฤศจิกายน หนึ่งในนักเรียนของคุณพ่อกลับมาเยี่ยมอาจารย์ที่โรงเรียน คุณพ่อบอกฉันว่าเธอเก่งมาก ๆ ตอนนี้เธอทำงานกับบริษัทต่างชาติ ภาษาอังกฤษของเธอยอดเยี่ยมมาก จากนั้นคุณพ่อก็เลยให้เธอทดสอบทักษะภาษาอังกฤษของฉัน
ส่วนหนึ่งฉันค่อนข้างอายเพราะฉันไม่รู้จักเธอ อีกส่วนหนึ่งฉันก็อายตัวเอง ฉันกลัวว่าเธอจะบอกว่าภาษาอังกฤษของฉันไม่ได้เรื่องและล้อเลียนฉัน T^T
หลังจากนั้นสักพักเธอก็วิเคราะห์และบอกถึงสิ่งที่ฉันขาดไป ฉันบอกได้เลยว่าเยอะมาก T^T มันเป็นเพราะวิธีการเรียนที่ไม่ถูกต้องซึ่งมุ่งเน้นไปที่หลักไวยากรณ์โดยที่ไม่ได้ปลูกฝังความคิดเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเลย วันนั้นล่ะเป็นวันที่ทำให้ฉันตาสว่าง
เธอแนะนำฉันให้เข้าเรียนหลักสูตรที่จัดทำโดย Eng Breaking ที่เธอเรียนมาก่อนเพราะพวกเขามีวิธีการสอนทักษะการพูด การฟังและการจำคำศัพท์ที่มี่ประสิทธิภาพมาก ๆ พวกเขาคือทุกอย่างที่ฉันขาด ที่สำคัญที่สุดคือฉันไม่ต้องเดินทางไกล แค่เรียนที่บ้านหรือเรียนออนไลน์ก็เพียงพอแล้ว พ่อของฉันซื้อหลักสูตรนี้ให้ฉันโดยทันทีโดยไม่ลังเล
ขอบคุณมากนะคะคุณพ่อ
เริ่มต้นที่ “หนังสือ” ของ Eng Breaking
ตอนที่ฉันได้รับชุดหนังสือ Eng Breaking ฉันประหลาดใจมาก ๆ ฉันไม่คิดว่ามันจะดูดีขนาดนี้ 😀 นอกจากบัญชีเรียนออนไลน์แล้ว ทางศูนย์ยังส่งตำราเรียน (ดีและมีสีสันสดใส ดูน่าสนใจจนอยากเริ่มเรียนทันที)
ไฟล์เสียงก็ฟังง่าย ฉันรู้มาว่าไฟล์เสียงทั้งหมดถูกอัดโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงฟังเหมือนคนจริง ๆ นัก 😀
มั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่ต้อง “เดิน” ไปไหนเพื่อเรียน แค่นั่งและเรียนจากที่บ้าน แม้ว่าจะไม่มีอินเทอร์เน็ต คุณก็ยังสามารถเรียนแบบออฟไลน์ได้
และนี่คือการเดินทาง “เอาชนะ” ภาษาอังกฤษของฉัน:
✔️ ประการแรก ฉันตั้งเป้าหมายรายสัปดาห์และพยายามทำให้สำเร็จ
ไม่มีความยากลำบากอะไรในขั้นตอนนี้เพราะ Eng Breaking มีตำรา “แผนปฏิบัติ” มาให้ มันจะแบ่งแยกส่วนต่าง ๆ ทั้งหมดเพื่อให้คุณทำตาม สิ่งที่คุณต้องทำก็คือรักษาความตั้งใจเอาไว้
✔️ ประการที่สอง ฉันใช้เวลาว่างทั้งหมดของฉันเพื่อฝึกฝนบทเรียน (หลักสูตรยืดหยุ่นมาก ๆ เพราะฉันสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา หากฉันไม่มีตำราเรียนอยู่ที่ตัว ฉันก็สามารถเรียนจากโทรศัพท์ได้)
คุณไม่ควรกลัวว่าจะต้องเรียนเยอะเพราะฉันใช้เวลาว่างเพียง 10-15 นาทีและอีก 15 นาทีก่อนนอนเพื่อฝึกการฟังเชิงลึกตามอัธยาศัย!!
✔️ ประการที่สาม ปฏิบัติตามคำแนะนำ
อย่าข้ามขั้นตอนใด ๆ ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ขั้นตอนดังกล่าวมีดังต่อไปนี้:
- การฟังเชิงลึก: ขั้นตอนนี้เราจะได้เรียนในการตาม “เสียง” ให้ทันและทำความเข้าใจบทสนทนา
- การพูดตามให้ทัน: มีความเร็วสองระดับ ได้แก้ “ช้า” และ “เจ้าของภาษา” ส่วนนี้ยากนิดหน่อยในตอนแรก ขอให้อดทนเข้าไว้ หลังจากที่เราคุ้นเคยแล้ว การอ่านออกเสียงและเสียงสูงต่ำของเราก็จะดีเหมือนกับเจ้าของภาษา เชื่อฉัน
- การโต้ตอบอย่างรวดเร็ว: ฝึกฝันการตอบคำถามและคำตอบ ส่วนนี้จะช่วยให้เรา “ตอบกลับ” ภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว ความกลัวแบบ “เอ่อ อืมมม” ตอนพูดภาษาอังกฤษจะหมดไป
✔️ ประการที่สี่ “พูดคุย” กับคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการเป็นประจำ
หนึ่งในข้อดีที่ฉันรักมากที่สุดเกี่ยวกับ Eng Breaking คือคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการที่กระตือรือร้น เมื่อใดก็ตามที่ฉันมีคำถาม ฉันแค่ต้องส่งอีเมลไปหาคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการและไม่นานก็จะได้รับการคำตอบที่เป็นประโยชน์โดยละเอียด หากอยู่ดี ๆ ฉันเกิด “ขี้เกียจ” ขึ้นมา ฉันจะได้รับอีเมล “แจ้งเตือน” น่ารัก ๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้ฉันเรียนต่อ
และความสำเร็จที่น่าประหลาดใจหลัง 3 เดือน
ตั้งใจเรียนอย่างหนักมาตลอด 3 เดือน ฉันก็เรียนจบหลักสูตร Eng Breaking 😀
ผลลัพธ์สุดท้ายคือฉันได้รับใบรับรองการเรียนจบจากศูนย์ น่ารักมาก ๆ แถมเมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันก็ได้รับใบรับรอง B1 TOEFL Junior โดยคะแนนในส่วนฟังของฉันได้คะแนนสูงสุดถึง 265/300
หลังจากนั้นคุณพ่อก็ซื้อตั๋วท่องเที่ยวไปที่ฮานอยเป็นรางวัลให้กับฉัน ฉันได้ไปเที่ยวที่ทะเลสาบคืนดายด้วยและคุณรู้ไหมฉันพูดคุยกับหญิงสาวชาวต่างชาติได้อย่างมั่นใจ!!! ตอนแรกฉันก็สั่นนิดหน่อย แต่หลังจากที่ได้เห็นความกระตือรือร้นของเธอแล้ว ฉันเลยเข้าไปคุยกับเธออย่างสนุกสนาน ฉันยังสอนภาษาไทยนิดหน่อยให้กับเธอด้วย
หลังจากนั้นครอบครัวของฉันก็ชวนเธอมาเที่ยวที่ไฮดวงและฉันก็ได้รับเกียรติให้เป็นนักแปลระหว่างเธอและครอบครัวของฉัน จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังภูมิใจในเรื่องนี้อยู่เลย
ขอบคุณ Eng Breaking สำหรับทุกสิ่ง!
การเดินทางของฉันเพิ่งเริ่มต้น ฉันจะพยายามที่สุดเพื่อพัฒนาตัวเองและปัจจุบันฉันก็เริ่มตั้งชมรมภาษาอังกฤษเล็ก ๆ ที่โรงเรียนแล้ว เราเรียน Eng Breaking ด้วยกัน ช่วยเหลือกันและกันเพื่อเอาชนะภาษาอังกฤษ
ฉันเชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้ คุณแค่ต้องตั้งใจและไว้วางใจ Eng Breaking!!!
ฉันอายุ16ปี กลัวการเรียนภาษาอังกฤษมาก คืออยากสอบถามว่าenglish beaking มีการสอนเกี่ยวกับไวยากรณ์เพื่อเอาไปใช่ในการสอบที่โรงเรียนรึเปล่าเพราะเราเองทำคะแนนได้ไม่ดีมากๆหรือทำการสอนแค่การพูดในชีวิตประจำวันเฉยๆ
Eng Breaking เป็นวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่มุ่งเน้นการฟัง – พูดภาษาอังกฤษและทักษะการโต้ตอบสำหรับผู้เริ่มหัด ผู้เรียนที่ไม่มีพื้นฐาน ดังนั้นผู้เรียนที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปสามารถใช้หลักสูตรนี้ได้ค่ะ
หลักสูตรครอบคลุม 72 หัวข้อตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ในชีวิตประจำวันของเรา: การแนะนำตัว การช้อปปิ้ง การเดินทาง โรงแรม อาชีพ เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้เรียนฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายมากขึ้น
ผู้เรียนสามารถนำสิ่งที่พวกเขาเรียนไปปรับใช้ได้ทันทีค่ะ
ผมอายุ30ปี ผมชอบเรียนภาษาอังกฤษมากๆเลย
ดีมากค่ะ ถ้าชอบเรียนก็เรียนเก่งได้อย่างง่ายนะคะ